ทัวร์อินเดีย, ธรรมหรรษาทัวร์, เที่ยวอินเดีย, ทัวร์สังเวชนียสถาน, ทัวร์แดนพุทธภูมิ, ทัวร์อินเดียเนปาล, ทัวร์แสวงบุญ 4 ตำบล, ทัวร์อินเดีย 2567-68, ทัวร์อินเดีย 30,900 บาท, ทัวร์อินเดียราคาถูก, ทัวร์อินเดียถูกดีชัวร์, ทัวร์อินเดีย 6-8 วัน, ทัวร์อินเดียเชี่ยวชาญจริง, ทัวร์อินเดียดีมีคุณภาพ, ทัวร์อินเดียโปรโมชั่น, ทัวร์อินเดียมาตรฐาน, ทัวร์อินเดีย 2567-68, ทัวร์อินเดียครบสูตร, Indiatour, dhammahansatour
ทัวร์อินเดีย, ธรรมหรรษาทัวร์, เที่ยวอินเดีย, ทัวร์สังเวชนียสถาน, ทัวร์แดนพุทธภูมิ, ทัวร์อินเดียเนปาล, ทัวร์แสวงบุญ 4 ตำบล, ทัวร์อินเดีย 2563-64, ทัวร์อินเดีย29999บาท, ทัวร์อินเดียราคาถูก, ทัวร์อินเดียถูกดีชัวร์, ทัวร์อินเดีย 6-7 วัน, ทัวร์อินเดียเชี่ยวชาญจริง, ทัวร์อินเดียดีมีคุณภาพ, ทัวร์อินเดียโปรโมชั่น, ทัวร์อินเดียมาตรฐาน, ทัวร์อินเดีย 2564, ทัวร์อินเดียครบสูตร, Indiatour, dhammahansatour
|
ทัวร์อินเดีย, ธรรมหรรษาทัวร์, เที่ยวอินเดีย, ทัวร์สังเวชนียสถาน, ทัวร์แดนพุทธภูมิ, ทัวร์อินเดียเนปาล, ทัวร์แสวงบุญ 4 ตำบล, ทัวร์อินเดีย2566-67 , ทัวร์อินเดีย2566-2567, ทัวร์อินเดียราคาถูก, ทัวร์อินเดียถูกดีชัวร์, ทัวร์อินเดีย 6-7 วัน, ทัวร์อินเดียเชี่ยวชาญจริง, ทัวร์อินเดียดีมีคุณภาพ, ทัวร์อินเดียโปรโมชั่น, ทัวร์อินเดียมาตรฐาน, ทัวร์อินเดีย 2566, ทัวร์อินเดียครบสูตร, Indiatour, dhammahansatour
|
ทัวร์อินเดีย, ธรรมหรรษาทัวร์, เที่ยวอินเดีย, ทัวร์สังเวชนียสถาน, ทัวร์แดนพุทธภูมิ, ทัวร์อินเดียเนปาล, ทัวร์แสวงบุญ 4 ตำบล, ทัวร์อินเดีย 2563-64, ทัวร์อินเดีย29999บาท, ทัวร์อินเดียราคาถูก, ทัวร์อินเดียถูกดีชัวร์, ทัวร์อินเดีย 6-7 วัน, ทัวร์อินเดียเชี่ยวชาญจริง, ทัวร์อินเดียดีมีคุณภาพ, ทัวร์อินเดียโปรโมชั่น, ทัวร์อินเดียมาตรฐาน, ทัวร์อินเดีย 2564, ทัวร์อินเดียครบสูตร, Indiatour, dhammahansatour
|
ทัวร์อินเดีย, ธรรมหรรษาทัวร์, เที่ยวอินเดีย, ทัวร์สังเวชนียสถาน, ทัวร์แดนพุทธภูมิ, ทัวร์อินเดียเนปาล, ทัวร์แสวงบุญ 4 ตำบล, ทัวร์อินเดีย 2566-2567, ทัวร์อินเดีย29999บาท, ทัวร์อินเดียราคาถูก, ทัวร์อินเดียถูกดีชัวร์, ทัวร์อินเดีย 6-7 วัน, ทัวร์อินเดียเชี่ยวชาญจริง, ทัวร์อินเดียดีมีคุณภาพ, ทัวร์อินเดียโปรโมชั่น, ทัวร์อินเดียมาตรฐาน, ทัวร์อินเดีย 2566, ทัวร์อินเดียครบสูตร, Indiatour, dhammahansatour
|
ทัวร์อินเดีย, ธรรมหรรษาทัวร์, เที่ยวอินเดีย, ทัวร์สังเวชนียสถาน, ทัวร์แดนพุทธภูมิ, ทัวร์อินเดียเนปาล, ทัวร์แสวงบุญ 4 ตำบล, ทัวร์อินเดีย 2563-64, ทัวร์อินเดีย29999บาท, ทัวร์อินเดียราคาถูก, ทัวร์อินเดียถูกดีชัวร์, ทัวร์อินเดีย 6-7 วัน, ทัวร์อินเดียเชี่ยวชาญจริง, ทัวร์อินเดียดีมีคุณภาพ, ทัวร์อินเดียโปรโมชั่น, ทัวร์อินเดียมาตรฐาน, ทัวร์อินเดีย 2564, ทัวร์อินเดียครบสูตร, Indiatour, dhammahansatour
|
ทัวร์อินเดีย, ธรรมหรรษาทัวร์, เที่ยวอินเดีย, ทัวร์สังเวชนียสถาน, ทัวร์แดนพุทธภูมิ, ทัวร์อินเดียเนปาล, ทัวร์แสวงบุญ 4 ตำบล, ทัวร์อินเดีย 2563-64, ทัวร์อินเดีย29999บาท, ทัวร์อินเดียราคาถูก, ทัวร์อินเดียถูกดีชัวร์, ทัวร์อินเดีย 6-7 วัน, ทัวร์อินเดียเชี่ยวชาญจริง, ทัวร์อินเดียดีมีคุณภาพ, ทัวร์อินเดียโปรโมชั่น, ทัวร์อินเดียมาตรฐาน, ทัวร์อินเดีย 2564, ทัวร์อินเดียครบสูตร, Indiatour, dhammahansatour
|
ทัวร์อินเดีย, ธรรมหรรษาทัวร์, เที่ยวอินเดีย, ทัวร์สังเวชนียสถาน, ทัวร์แดนพุทธภูมิ, ทัวร์อินเดียเนปาล, ทัวร์แสวงบุญ 4 ตำบล, ทัวร์อินเดีย 2563-64, ทัวร์อินเดีย29999บาท, ทัวร์อินเดียราคาถูก, ทัวร์อินเดียถูกดีชัวร์, ทัวร์อินเดีย 6-7 วัน, ทัวร์อินเดียเชี่ยวชาญจริง, ทัวร์อินเดียดีมีคุณภาพ, ทัวร์อินเดียโปรโมชั่น, ทัวร์อินเดียมาตรฐาน, ทัวร์อินเดีย 2564, ทัวร์อินเดียครบสูตร, Indiatour, dhammahansatour
|
ทัวร์อินเดีย, ธรรมหรรษาทัวร์, เที่ยวอินเดีย, ทัวร์สังเวชนียสถาน, ทัวร์แดนพุทธภูมิ, ทัวร์อินเดียเนปาล, ทัวร์แสวงบุญ 4 ตำบล, ทัวร์อินเดีย 2563-2564, ทัวร์อินเดีย29999บาท, ทัวร์อินเดียราคาถูก, ทัวร์อินเดียถูกดีชัวร์, ทัวร์อินเดีย 6-7 วัน, ทัวร์อินเดียเชี่ยวชาญจริง, ทัวร์อินเดียดีมีคุณภาพ, ทัวร์อินเดียโปรโมชั่น, ทัวร์อินเดียมาตรฐาน, ทัวร์อินเดีย 2564, ทัวร์อินเดียครบสูตร, Indiatour, dhammahansatou
|
ธรรมหรรษาทัวร์
|
|
พาราณสี (varanasi, banaras)
พาราณสี (varanasi, banaras)
เมืองพาราณสี แคว้นกาสี
พาราณสีมหานครราชธานี
เพื่อความเป็นที่ ๑
๑. ปฐม เทศนาอริยสัจจ์
๒. ปฐม อุบัติอริยสงฆ์
๓. ปฐม พรรษาพระพุทธองค์
๔. ปฐม วงศ์อุบาสิกา
๕. ปฐม บิดาอุบาสก
๖. ปฐม ศกประกาศศาสนา
๗. ปฐม ความงามพระปฏิมา
๘. ปฐม พาราฯพุทธสัญจร
๙. ปฐม มหาวิทยาลัย
๑๐.ปฐม ยิ่งใหญ่คงคาชื่อกระฉ่อน
๑๑.ปฐม แพรไหมเลิศผ้าอาภรณ์
๑๒.ปฐม นครแห่งอารยธรรม
ที่มา...คู่มือพระธรรมวิทยากร
กลุ่มพระชาวแคว้นกาสี
กลุ่มพระชฎิล ๓ พี่น้อง คือ พระอุรุเวลกัสสปะ พระนทีกัสสปะ
พระคยากัสสปะ
และพระยสะ เพื่อนเก่า ๔ รูป พระวิมละ พระสุพาหุ
พระปุณณชิ และพระควัมปติ
ถ้าจะกล่าวถึง พาราณสี เป็นชื่อที่คุ้นสำ หรับคนไทย สมัย
ครั้งพุทธกาลพาราณสีเป็นเมืองหลวงของแคว้นกาสี เป็นเมืองขึ้นของ
พระเจ้าปเสนทิโกศล แคว้นโกศล เมืองพาราณสีจะขึ้นชื่อลือชาใน
เรื่องผ้า คือผ้ากาสี เป็นผ้ามีคุณภาพ ประณีตงดงาม เป็นเมืองที่ค้าขาย
กับแว่นแคว้นต่างๆ พาราณสีเป็นเมืองเก่าแก่มีอายุหลายพันปี ช่วง
ที่กษัตริย์มุสลิมมาปกครองพยายามเปลี่ยนชื่อพาราณสีเป็นอย่างอื่น
พออำ นาจลดลง คำ ว่า พาราณสีก็ถูกมาใช้อีกครั้ง อังกฤษมาปกครอง
อินเดียพาราณสีถูกเรียกว่า บันนารัส, บันนาเรส
ปัจจุบันคนอินเดียเรียกพาราณสีว่า วาราณสี และพาราณสีถือได้
เป็นแม่ของอินเดียเป็นบ่อเกิดวัฒนธรรมของอินเดีย ถ้าอยากดูวิถีชีวิต
ของฮินดู ประเพณีวัฒนธรรม ก็ต้องมาดูที่เมืองพาราณสีแห่งนี้ เพราะ
ว่าที่แห่งนี้ยังความเป็นฮินดูไว้มาก มีท่าน้ำ ที่สำ คัญหลายจุด มีพิธีกรรม
ศักดิ์สิทธิ์ ริมท่ามีการเผาศพถือปฏิบัติกันมา หลายพันปีมาแล้ว มีท่าน้ำ
สำ หรับลงอาบเพื่อชำ ระบาป
เมืองพาราณสีเป็นเมืองที่พระพุทธเจ้าเคยเสวยพระชาติเป็น
โพธิสัตว์พระเจ้า ๕๐๐ ชาติ (๕๔๗) เกิดขึ้นที่เมืองพาราณสี ๔๒๗ พระชาติ
เคยเกิดมนุษย์เช่นเป็น พระราชา อำ มาตย์ ฤาษี และเคยเกิดเป็นนก
ช้าง ม้า ราชสีห์ ฯลฯ เป็นต้น ในทศชาติชาดกเกิดขึ้นที่เมืองพาราณสี
๒ เรื่องคือ เตมีย์ และสุวรรณสาม
ม. ในพาราณสี
ม. เมือง
ม. แม่น้ำ
ม. ไหม
ม. หมาก
ม. มรณะ
ม. มหาวิทยาลัย
ม. มฤคทายวัน
ม. มะขามป้อม
ม. เมือง คือเมืองพาราณสีเป็นเมืองศักดิ์ของชาวฮินดูเป็นเก่า
แก่ที่สุด ในอินเดีย ไม่มีใครสามารถค้นหาต้นกำ เนิดว่าเกิดขึ้นเมื่อใด
พาราณสีเป็นชื่อของแม่น้ำ คือแม่น้ำ วรุณะ กับ อสี เมื่อรวมกันแล้วจึง
เรียกว่า พาราณสี
พาราณสีเป็นชื่อศีรษะวานร มาจากคำ ว่า วานร กับ สีสะ รวม
กันแล้ว เรียกว่า วานรสีสะ, วานรสี ดังที่กล่าวไว้ในกปิลชาดก ลิงขาว
ลิงดำ ได้แสดงคุณเครื่องของคุณธรรมความเป็นผู้นำ เมื่อสิ้นชีวิตลง เจ้า
เมืองได้นำ ส่วนของศีรษะบรรจุ ณ ใกล้ทางสามแพร่ง
ม. แม่น้ำ คือแม่คงคา แต่คนอินเดียเรียกว่าแม่น้ำ กังกาเป็น
แม่น้ำ มาจากสรวงสวรรค์ที่ผ่านทางมวยผมของพระศิวะ ตามคำ ของ
คงคาเทพธิดา ซึ่งเป็นลูกสาวของหิมวัตราชา เพราะกระแสน้ำ แรงมาก
โลกไม่สามารถรองรับได้คัมภีร์ปูราณะ ได้กล่าวว่า พระเจ้าสาคร มี
พระมเหสีเอกมีพระโอรสเป็นน้ำ เต้าทองถึงหกหมื่น มีนิสัยเกเรพาลไป
ทั่ว พระเจ้าสาครทำ พิธีอัศวเมธ (บูชาม้า) บางครั้งม้าได้สูญหาย จึงให้
พระโอรสหกหมื่นออกติดตาม ปรากฏว่า โอรสระรานผู้คนจนสร้างความ
เดือดร้อน
วันหนึ่งได้เจอหลุมเข้าไปพบฤาษีกบิล ซึ่งมีม้าอุปการอยู่ข้างๆ
ได้กล่าว วาจาหมิ่น ท่านฤาษีลืมตาเปลวไฟจากนัยตาได้เผาเป็นเถ้าถ่าน
ฤาษีบอกว่า ถ้าอยากให้โอรสได้ขึ้นสวรรค์ ต้องเอาน้ำ คงคาจากสวรรค์มา
ชำ ระล้างเถ้าถ่าน บาปจึงหมดหายไป ท่าที่สำ คัญได้แก่ ท่าอสี ท่าทศวเมธ
ท่ามณิกรรณณิการ์ ฯลฯ
จริงๆ แล้วแม่น้ำ คงคามีจุดกำ เนิดมาจากเทือกเขาหิมาลัย
มีความยาวประมาณ ๒๕๐๐ กิโลเมตรไหลไปจนถึงปากอ่าวเบงกอล
ม. ไหม คือไหมที่ทำ ผ้า คือผ้ากาสี เป็นผ้ามีชื่อเสียง วิธีการทำ
ก็คือ จะเริ่มตั้งแต่การปลูกการเลี้ยง การทอจนสำ เร็จรูปเป็นผ้าที่งดงาม
ในคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนา สิทธัตถะราชกุมารใช้สอยผ้าอย่างดี ที่มา
จากเมืองพาราณสีคือ ผ้ากาสี
ม. หมาก ในที่นี้ก็คือหมากที่ไว้สำ หรับเคี้ยวกิน ก็จะมีขายตาม
รายทาง มีทั้งที่เป็นแบบสดมีคนคอยผสมให้ และที่เป็นแบบสำ เร็จรูป
ชนิดแห้งเป็นเม็ดเล็กๆ เอาเคี้ยวกินรสชาติไม่เป็นต่างกัน ลักษณะคล้าย
กับซองแชมพูบ้านเรา เป็นการพัฒนาในรูปแบบแพ็จเกจ
ม. มรณะ คือท่าเผาศพ ท่ามณิกรรณิการ์คนที่ตายในเมือง
พาราณสีจะต้องนำ ศพมา ณ บริเวณนี้ มีการเผาทุกวัน ในแต่ละวันจะ
มีศพถูกเผาเป็นจำ นวนมาก เป็นท่าที่ศักดิ์สิทธิ์ใครได้มาอาบน้ำ เชื่อกัน
ว่าวิญญาณจะได้ขึ้นสวรรค์ในคัมภีร์ปูราณะ ท่านี้เป็นท่าที่พระศิวะได้ทำ
ตุมหูตกลงในแม่น้ำ จึงเป็นที่มาของชื่อ มณิกรรณ์ณิการ์
ท่ามณิกรรณณิการ์ ได้ชื่อว่า ไฟไม่เคยดับสี่พันปีมาแล้ว
บางครั้งเราอาจจะเห็นศพลอยมาบ้าง ก็ไม่ต้องแปลกใจเพราะว่าที่นี้
ศพ ๕ ประเภทจะไม่มีการเผาคือ
๑. ศพเด็ก เพราะว่าเด็กบริสุทธิ์
๒. ศพคนถูกงูกัด เพราะว่าพระศิวะก็มีงูเป็นสังวาลย์
๓. ศพฟ้าผ่า เพราะว่าเป็นอาวุธของพระศิวะ
๔. ศพหญิงตายทั้งกลม เพราะว่าเด็กในท้องบริสุทธิ์
๕. ศพนักบวช เพราะว่านักบวชถือพรตมีศีลบริสุทธิ์
ม. มหาวิทยาลัย ในเมืองพาราณสีมีมหาวิทยาลัยหลายแห่งอาทิ
เช่น มหาวิทยาลัยสันสกฤต มหาวิทยาลัยพาราณสี เปิดหลายสาขาวิชา
มีทั้งสังคมศาสตร์ ศาสนาปรัชญา โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยพาราณสีก่อ
ตั้งขึ้น เพื่อเป็นการเชิดชู ตลอดจนอนุรักษ์ความเป็นฮินดูเอาไว้ ตำ รา
ทางลัทธิ ศาสนาที่เก่าแก่ ต้องมาค้นคว้าที่แห่งนี้
ม. มฤคทายวัน ก็คือสารนาถเป็นสถานที่ที่พระพุทธเจ้าทรงโปรด
ปัญจวัคคีย์ทั้ง ๕ เป็นสถานที่แสดงปฐมเทศนา เป็นที่เกิดพระสงฆ์รูป
แรกครบถ้วนสมบูรณ์แห่งพระรัตนตรัย
ม. มะขามป้อม บางท่านอาจจะขำ เกี่ยวตรงไหนหรอ ถือว่าเป็น
ของแถมก็แล้วกัน ไม่ขอพูดถึงสรรพคุณของมะขามป้อม แต่ผลใหญ่กว่า
บ้านเรามาก ไม่ทราบว่าจะเป็นเพราะสภาพอากาศหรือพันธุ์ ไม่ทราบ
จริงๆ เพราะว่าไม่ใช่นักพฤกษศาสตร์ที่วิจัยด้านนี้ แต่ก็เคยถามคนที่นำ
ไปปลูก คำ ตอบที่ได้รับ คือต้นมันตายแล้ว และยังไม่ออกผล
สรุปแล้วรอกันต่อไปทุกวันนี้มีการเพาะต้นมะขามป้อม มีอยู่ ๒
ราคาสองขนาด คือขนาดเล็กต้นละ ๒๕ รูปี ต้นใหญ่ ราคา ๕๐ รูป ให้
คนอินเดียติดต่อหาซื้อได้มีการนำ มะขามป้อม มาทำ ในรูปของการถนอม
อาหารเพื่อเก็บไว้กินได้นานบรรจุใส่กระปุกอย่างดี มีขายแถวสุตาลปูร์
เส้นกึ่งกลางระหว่างพาราณสีกับสาวัตถี ปุสสะสัมมาพุทธเจ้า (ผุสสะ)
เกิดที่เมืองกาสิกะ (พาราณสี) ก็ตรัสรู้ใต้ต้นมะขามป้อม
ปัญจตีรถะ หรือปัญจติตถะ คือ ท่าน้ำ สำ คัญของเมืองพาราณสี
มีอยู่ด้วยกัน ๕ ท่า ได้แก่ ๑. ท่าทศวเมธ ๒. ท่าปัญจคงคา
๓. ท่ามณิกรรณณิการ์ ๔. ท่าหริจันทะ ๕ ท่าอสี
แม่น้ำ คงคา มีลักษณะโค้งเสี้ยวพระจันทร์ คล้ายอยู่ที่พระนลาฎ
พระศิวะ
คงคา (Ganga) หมายถึง เป็นชื่อเทพธิดาคงคา (ลูกของหิมวัต
และเมนา) อาจมีชื่อเรียกเป็นอย่างอื่นเช่น สุรสรวันตี สุรนที สุรนิมนคา
วโยมคงคา
ฆาท (Ghat) แปลว่า ท่า
จุดประสงค์ไปแม่น้ำ คงคา
๑. ไปดูวิถีชีวิตของชาวภารตชน (ชาวฮินดู คนอินเดีย)
๒. เพื่อบูชาพระบรมสารีริกธาตุ ที่ครั้งหนึ่งอำ มาตย์เมืองนี้ได้
นำ มาลอยอังคาร
๓. ไปดูศิลปะวัฒนธรรม เช่น จุดกำ เนิดลอยกระทง เป็นต้น
ท่าน้ำ มีทั้งหมด ๘๔ ท่า เริ่มต้นที่ท่าอสี ดังต่อไปนี้
๑. อัสสี ฆาท (Assi Ghat) ท่านี้สร้างโดยกษัตริย์เมืองพาราณสี
เมือง ในปี ค.ศ.๑๙๘๘ ตั้งชื่อตามแม่น้ำ อัสสีที่ไหลมาบรรจบกับแม่น้ำ
คงคา ตามตำ นานได้กล่าวว่า พระแม่ทุรคาได้ปราบอสูรชุมภะ นิชัมภะ
นางได้ขว้างดาบเล่มนั้นทิ้ง จุดที่ดาบตกคือจุดกำ เนิดท่าอัสสี ท่านี้เป็น
ท่าที่จัดกิจกรรมสำ คัญ เช่น สุริยะ สัชถิ ในเดือนกาติก ดิปาวลีปูชา ท่า
นี้จะห่างจากมหาวิทยาลัยพาราณสี ๑ กิโลเมตร
ในสมัยที่เรียนจะก็มานั่งอ่านท่องหนังสือ บางวันนอนค้างคืน
บ้าง ตื่นมาอีกที ตี ๔ ชาวฮินดูจากทั่วสารทิศหลักร้อยหลักพันคน ต่าง
มาอาบน้ำ กัน และบูชาเทพเจ้าในตอนเช้า
๒. คงคา มาฮัล ฆาล (Ganga Mahal Ghat) กษัตริย์พาราณสี
สร้างขึ้นปี ค.ศ. ๑๘๓๐
๓. ริวา ฆาท (Rewa Ghat) เป็นชื่อใหม่ตามเมืองของมหาราช
แห่งเมืองเรวา รัฐมัธยะประเทศ ที่สร้างปราสาท เดิมชื่อตามนักบวชคือ
ลาลา ไมเสอ ฆาท
๔. ตุลสี ฆาท (Tulsi Ghat) เป็นชื่อของท่านตุลสีดัส ในยุคภัคติ
ได้รับยกย่องว่าเป็นกวีเอกและนักบวชในยุคนั้น ผลงานคือ รามจริต
มานัส โดยเฉพาะได้กล่าวถึงขององค์พระองค์เท่านั้น และ รามายณะ
คนไทยรู้จักในนาม รามเกียรติ์ ท่านี้ชาวฮินมาทำ กิจกรรมสำ คัญมีผู้คน
จำ นวนมากมาร่วม
๕. ภาไดนี ฆาท (Bhadaini Ghat) เดิมเป็นชื่อของพระอาทิตย์
โลลารกาทิตยาเทพ คู่รักคู่หมันมักจะมาอาบน้ำ ท่านี้ เพราะเชื่อกันว่า
ทำ ให้ไม่แยกทางกัน รักกันนานยิ่งขึ้น และใกล้เคียงจะบ่อศักดิ์สิทธิ์ชื่อ
โลลารก
๖. จันกิ ฆาท (Janki Ghat) ท่านไร กิรถา ลาล สร้างปี ค.ศ.
๑๘๖๐ ต่อมามหารานี แห่งสุรสันทร์ ทำ การต่อเติม มีวัดพระวิษณุ และ
พระศิวะ
๗. อนันทมายี ฆาท (Anandmayi Ghat) ท่านี้เป็นชื่อของ
ต้นมะขาม บริเวณที่มีต้นมะขาม เดิมชื่อ อิมิลิยา ฆาท
๘. วัชชราชา ฆาท (Vachcharaja Ghat) ท่านี้เป็นชื่อเรียกตาม
พ่อค้าที่บริจาคเงินสร้างบันได
๙. เชน ฆาท (Jain Ghat) ท่านี้ศาสนิกในศาสนาเชน ได้ร่วม
บริจาคเงินก่อสร้าง บนสุดมีวัดเชน สร้างในปี ๑๘๘๕ เพื่ออุทิศให้กับ
ท่านสุพัสวนาถ
๑๐. นิสาด ราช ฆาท (Nishad raj Ghat) ท่านี้สร้างพร้อมกับวัด
เพื่อเป็นเกียรติให้กับท่านนิสาด ราช เมื่อปี ค.ค. ๑๙๔๒ จะมีชุมชนชาว
ประมงตั้งอยู่
๑๑. ปัญจโกท ฆาท (PanchKot Ghat) เรียกชื่อตาม ราชา ปัญจ
โกท
๑๒. ประภู ฆาท (Prabhu Ghat) นักธุรกิจชาวเบงกอล บริจาค
เงินบำ รุง
๑๓. เชต ซิงค์ ฆาท (Chet Singh Ghat) เดิมชื่อชื่อขิรกิ ฆาท
เคยเป็นฐานที่มั่นต่อสู้กันระหว่างกษัตริย์พาราณสีกับอังกฤษ พระเจ้า
เชต ซิงค์ พ่ายแพ้ในที่สุด
๑๔. นิรันชานิ ฆาท (Niranjani Ghat) ราชาปัญจโกท สร้างต้น
ศตวรรษที่ ๒๐
๑๕ มหานิรวานิ ฆาท (Mahanirvani Ghat) ราชาปัญจโกท
บริจาคเงินสร้าง
๑๖. ศิวลา ฆาท (Shivala Ghat) มาลวาน ซิงค์ กษัตริย์เมือง
พาราณสี อุปถัมภ์การก่อสร้าง
๑๗. กุลาเรีย ฆาท (Gularia Ghat) ตั้งชื่อตามต้น กุลาร
๑๘. ตันติ ฆาท (Dandi Ghat) ท่านลาลูจี อัคราวาล สร้าง ค.ศ.
๑๘๑๒ เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของนักบวชฮินดู นิกาย ตันติ
๑๙. หนุมาน ฆาท (Hanuman Ghat) ตั้งชื่อตามวัดหนุมาน
๒๐. ปราจีน หนุมาน ฆาท (Prachin Hanuman Ghat) นักบวช
ฮินดูนิกายภัคติ ชื่อ วัลลาภา ได้พักอาศัยอยู่ท่านี้
๒๑. กรรทก ฆาท (Kamataka Ghat) กษัตริย์ ไมซอร์ บริจาค
เงินก่อสร้าง ในปี ๑๙๒๘
๒๒. หริชจันทรา ฆาท (Harish Chandra Ghat) ท่าเผาศพแห่งที่
สอง ท่านี้เรียกชื่อตามกษัตริย์องค์ที่ ๒๘ นามว่า หริจันทรา แห่ง ราชวงศ์
สุริยะ
๒๓. ลาลิ ฆาท (Lali Ghat) ตั้งชื่อตามนักบวช (ลาลี บาบา) ท่าน
หนึ่งที่มาอาศัย ณ ท่าน้ำ แห่งนี้
๒๔. ประภู ฆาท ๒ (Prabhu Ghat 2) เป็นอีกท่าหนึ่งที่ชาวฮินดู
มาเล่นอาบน้ำ
๒๕. วิจัยนคราม ฆาท (Vijayanagaram Ghat) มหาราชาแห่ง
วิจัยนคร สร้างไว้
๒๖. เกดาร ฆาท (Kedar Ghat) บนสุดมีวัดฮินดู เป็นวัดของ
เทพเกดาเรชวาร ชาวพาราณสีเชื่อกันว่าเป็นเทพเจ้า คุ้มครองทางด้าน
ใต้ของเมืองกาสีเก่า
๒๗.เจากิ ฆาท (Chauki Ghat) ท่านกุมาร สวามี สร้างในศตวรรษ
ที่ ๑๗ จะมีเทศกาลนาคปัญจมี เดือนชัลวาล มีการนำ ของหวาน นม มา
บูชารูปปั้นงู
๒๘. เกษมเมศรวล ฆาท (Ksemmesvara Ghat) สร้างในศตวรรษ
ที่ ๑๘ เดิมมีชื่อเรียก นาลา ฆาท
๒๙. มันศวร ฆาท (Mansarovar Ghat) แมน ซิงค์ ราชาแห่ง
อัมเมอร์ รัฐราชปุต เป็นผู้สร้าง
๓๐. นารัด ฆาท (Narad Ghat) ท่านคัตตาตรียา สวามี ในปี ๑๗๘๘
เดิมมีชื่อเรียก คูวาย และเปลี่ยนชื่อตามเทวาลัยของเทพนาลัดศวร
๓๑. ราชา ฆาท (Raja Ghat) กษัตริย์มาลาวี ราว มหาราชฏะ
สร้างในปี ค.ศ. ๑๗๗๐ และบูรณะใหม่โดย ราชา อัมริตระ ราว เปศวร
ในปี ค.ศ.๑๘๐๗
๓๒. โขรี ฆาท (Khori Ghat) ช่วงหลังๆ มา ท่านคาวินทรา
นารายณ์ ซิงค์ สร้างบันได
๓๓. ปานเดย์ ฆาท (Pandey Ghat) สร้างเพื่อเป็นเกียรติแก่ ท่าน
บาบัว ปานเด นัก มวยปล้ำ ตั้งค่ายบนท่านี้
๓๔. สารเวศัร ฆาท (Sarveshar Ghat) ท่านมธุรา ปานเดย์ สร้าง
ในปลายศตวรรษที่ ๑๘
๓๕. ดิกปาเตีย ฆาท (Digpatia Ghat) กษัตริย์แห่งดิกปาเตีย รัฐ
เบงกอลตะวันออก สร้าง ในปี ค.ศ. ๑๘๓๐
๓๖. ชอสัตถิ ฆาท (Chausatthi Ghat) ตั้งชื่อตามเทวาลัยของ
ซอสัตถ เทวีเทพ
๓๗. รานา มาฮัล ฆาท (Rana Mahal Ghat) ท่านราน จากัต
ซิงห์ รัฐราชสถาน สร้างในปี ค.ศ. ๑๖๗๕
๓๘. ดารภังกา ฆาท (Darbhanga Ghat) ราชาแห่งดารภังกา
รัฐพิหาร สร้างปราสาท เมื่อปี ค.ศ.๑๙๒๐
๓๙. มุนซิ ฆาท (Munshi Ghat) ท่านศรีซัล นารายัน มุนชิ
รัฐมนตรีการคลัง เมืองนาคปุระ สร้างในปี ๑๘๑๒
๔๐. อาฮิล ยาไบ ฆาท (Ahilyabai Ghat) ราชินีอาฮิล ยาไบ โฮลคัล
เมืองอินโด รัฐมหาราชฏะ ทำ การบูรณะซ่อมแซ่ม
๔๑. ศิตาลา ฆาท (Shitala Ghat) ตามชื่อตามเทวาลัยที่ตั้งอยู่
บนท่านี้
๔๒. ดัสอัศวเมธ ฆาท (Dashashwamedh Ghat) ท่านี้สำ คัญ
มากในอดีตท่านี้ ทำ พธีปล่อยม้า ๑๐ ตัว ปัจจุบันมีพิธีกรรมศิวะอารตี
ในภาคค่ำ
๔๓. ประยัด ฆาท (Prayag Ghat) ตั้งชื่อสังฆัม เพราะเป็นการ
รวมกันของแม่น้ำ สำ คัญ สังฆัมแห่งนี้เรียกว่า ประยัด
๔๔. ราเชนทรา ประสาด ฆาท (Rajendra Prasad Ghat) เดิม
ชื่อ โฆรา ฆาท แปลว่าม้า ในอดีตท่านี้มีการชื้อม้าเพื่อข้ามอีกฟากหนึ่ง
ต่อมาเปลี่ยนชื่อให้เกียรติประธานาธิบดีคนแรกของอินเดีย
๔๕. แมน มันดีร ฆาท (Man Mandir Ghat) สร้างโดย ท่านไสว
แมน ซิงห์ เป็นแม่ทัพของกษัตริย์อักบาร์
๔๖. วาราหิ ฆาท (Varahi Ghat) ตั้งชื่อตามวัดของเทพเจ้าองค์
หนึ่ง ชื่อ วาราหิ มาตา
๔๗.ตรีปุระ ไบระวี ฆาท (Tripur Bhairavi Ghat) ตั้งชื่อตามเทพ
องค์หนึ่ง มหาราชาเมือง พาราณสี สร้างไว้
๔๘. เมียร ฆาท (Meer Ghat) ท่านเมียร รัสดัม อาลี ผู้สำ เร็จ
ราชการแทนกษัตริย์เมืองอวัธ (อโยธยา) บริจาคเงินสร้าง
๔๙. เนปาลี ฆาท (Nepal Ghat) ท่านนันฮิ บาบู สร้างในปี ค.ศ.
๑๙๐๒ และชาวเนปาลที่อาศัยในเมืองพาราณสีได้ทำ การทำ นุบำ รุง
ซ่อมแซม
๕๐. ลาลิตา ฆาท (Lalita Ghat)ตั้งชื่อตามเทพลาลิตา เทวี
๕๑. อัมโรห์ ฆาท (Amroha Ghat) สร้างในคริสต์ศตวรรษที่ ๑๙
โดยท่านบาบู กะเสียบ เทพ กับพ่อค้า
๕๒. ขิรกิ ฆาท (Khirki Ghat) ขิรกิ แปลว่า แม่หม้าย เป็นจุดที่
แม่หม้ายหรือภรรยาผู้ตายยืนรอดูศพสามีที่กำ ลังเผา ธรรมเนียมฮินดูไม่
นิยมให้สตรี เข้าร่วมในงานศพ
๕๓. ชลสัย ฆาท (Jaisayi Ghat) เป็นท่าที่เกี่ยวข้องกับพิธีกรรม
การเผาศพ
๕๔. มณิกรรณิกา ฆาท (Manikarnika Ghat) ท่าที่เผาศพ และ
เป็นท่าที่สำ คัญมาก
๕๕. บาจิราว ฆาท (Bajiroa Ghat) เดิมชื่อ ทัตตะตรียา ฆาท
เป็นนักบวช เชื่อกันว่า เป็นอวตารแห่งตรีมูรติ ต่อมาท่านบาจิราว เปศวร
ได้ทำ การบูรณะซ่อมแซม
๕๖. สกินเธีย ฆาท (Scindhia Ghat) เดิมมีอยู่แล้ว ราชินีของ
ราชาคัลลาตา ราว สกิน เธีย แห่งเกาเลีย ได้บูรณะปรับปรุง ทายาทของ
ท่านพระองค์หนึ่งได้เปลี่ยนชื่อให้เป็น สกินเธีย
๕๗. สังกัต ฆาท (Sankata Ghat) ตั้งชื่อตามเทวาลัย สังกัตตา
เทวี
๕๘. คงคา มาฮาล ฆาท (Ganga Mahal Ghat) สร้างโดย ราชา
แห่งเกาเลีย มหาราชจิยาจิ ราว สกินเธีย
๕๙. โภนเชติ ฆาท (Bhonsale Ghat) มหาราชโภนเซลิ แห่งนาคปูระ
สร้างในปี ค.ศ. ๑๗๘๐
๖๐. คเณศ ฆาท (Ganesh Ghat) ตั้งชื่อตามเทวาลัยของ
พระพิฆเนศ
๖๑. เมตตา ฆาท (Mehta Ghat) ตั้งชื่อตามโรงพยาบาลที่ตั้งบน
ท่านี้ นักธุรกิจเมือง กัลกัตต้า ชื่อ วัลลภราม ซาลิคราม เมตตา สร้างใน
ปีค.ศ. ๑๙๖๐
๖๒. ราม ฆาท (Ram Ghat) ท่านี้เป็นชื่อตามวัดพระราม ราชา
แห่งชัยปูร์ ชื่อ ราชาลไวย ไจ ซิงค์ สร้างไว้
๖๓. จาตาร ฆาท (Jatara Ghat) ท่านทิวัน บาลาจี จาตาร ขุนนาง
ในราชสำ นักแห่ง กวาเลีย ได้สร้างไว้
๖๔. ราชา กวาเลีย ฆาท (Raja Cawalior Ghat) ราชาจิยาจี ราว
ซินเด สร้างในปี ค.ศ. ๑๗๖๐
๖๕. มงคล กัวรี ฆาท (Mangala Gauri Ghat) ตั้งชื่อตามเทพธิดา
ที่มีผิวสีขาว คือ เทพธิดา กัวลี
๖๖. เบนิ มาเทพ ฆาท (Beni Madhav Ghat) ตั้งชื่อตามเทวาลัย
ของ บินดู มาทะวะ
๖๗. ปัญจคงคา ฆาท (Panch Ganga Ghat) ในตำ นานกล่าว
ไว้มีความสำ คัญมาก ตำ นานกล่าวไว้ไหลมารวมกับแม่น้ำ คงคา ณ ท่านี้
คือ ยมุนา สรสวตี กีรนา นัมทา และ ภูตปาบ
๖๘. ทุรคา ฆาท (Durga Ghat) ตั้งชื่อตามวัดพราหมจารินี
ทุรคา สร้างโดยคุรุ ของมหาราช เปซวาล
๖๙. พรหม ฆาท (Bhramma Ghat) ตั้งชื่อตามวัด
พระพหรามณ์เมชวาล มีเรื่องเล่าว่าพระพรหม มาเยือนเมืองกาสี
ต้องการที่พัก พระศิวะจึงจัดท่าน้ำ แห่งนี้ให้
๗๐. บันฑิต ปรโกต ฆาท (Bundi ParaGota Ghat) มหาราช
สุราจัน ฮาดา ราชาแห่งบันดี รัฐราชสถาน สร้างท่านี้พร้อมกับปราสาท
ในปีค.ศ.๑๕๘๐
๗๑. สิตาลา ฆาท (Sitala Ghat) เปลี่ยนชื่อตามเทวาลัยของเทพ
สิตาลา โดยท่านนารายัน ดิกชิต สร้างปีค.ศ.๑๗๗๒
๗๒. ลาล ฆาท (Lala Ghat) ราชาแห่งติจารา รัฐราชสถาน สร้าง
ในปี ค.ศ. ๑๙๐๐ ต่อมา บัลเทพ ดัส บิรลา ได้สร้างปราสาท
๗๓. หนุมาน กาธิ ฆาท (Hanuman Gathi Ghat) สร้างในปี
ค.ศ. ๑๙๗๒ โดยท่านติกจันทรา สาหุ ลูกศิษย์ท่านชื่อ บาบาสยามกัส
เคยบำ เพ็ญตนบนท่านี้
๗๔. กาย ฆาท (Gai Ghat) ตั้งชื่อตามรูปวัวขนาดใหญ่ (วัวเป็น
พาหนะของพระศิวะ) ท่านี้อดีตเคยมีวัวมารวมกันเป็นจำ นวนมากที่มา
อาบมากินน้ำ ใครที่เคยฆ่าวัวหรือควาย ถ้าได้มาอาบน้ำ ท่านี้ บาปเหล่า
นั้นลอยหายสิ้นไปเอง
๗๕. บัทรีนารายัน ฆาท (Badrinarayan Ghat) ราชาแห่งเกาเลีย
สร้างประมาณศตวรรษที่ ๑๙ เดิมชื่อ บาล่า ไภ ฆาท
๗๖. ตรีโลจัน ฆาท (Trilochan Ghat) ตั้งชื่อตามรูปเคารพของ
พระศิวะ ศิวะตรีโลจัน หมายถึง ศิวะมีสามเนตร
๗๗. โกรา ฆาท (Gola Ghat) เป็นชื่อเรียกตามฉางข้าวเปลือก
บริเวณนี้เป็นที่พักข้าวเปลือก เพื่อ รอนำ ไปฝั่งตรงข้าม โกรา แปลว่าฉาง
ข้าวหรือยุ้งข้าว
๗๘. นันทุ ฆาท (Nandu Ghat) ท่านทวารกานาถ จักรวัลตรี
เศรษฐีจากเมืองกัลกัตตา สร้างในปี ค.ศ.๑๙๔๐ บนท่านี้มีเทวาลัยของ
นันทรีศวร
๗๙. ศุกกา ฆาท (Shukka Ghat) เป็นที่ตั้งเทวาลัยของพระศิวะ
๘๐. เตลียานาลา ฆาท (Telianala Ghat) เตลี เป็นชื่อของผู้
ประกอบกิจการน้ำ มันที่ได้จากเมล็ดพืช
๘๑. ภูต / นะยะ ฆาท (Phuta/Naya Ghat)ในอดีตคือศตวรรษที่
๑๘ ถูกทิ้งร้างไม่มีบ้านเรือน ภูต แปลว่า ผี ปีค.ศ. ๑๙๔๐ ท่านนรซิงส์
ชัยปาล เมืองภาบัว รัฐพิหาร สร้างขึ้นใหม่ ได้ชื่อ นะยะ แปลว่า ใหม่
๘๒. ประหลาด ฆาท (Prahlad Ghat) ตั้งชื่อตามผู้นับถือพระ
วิษณุ ชื่อประหลาด ที่ได้กล่าวไว้ใน กำ เนิดเทศกาลโฮลี่
๘๓. ราช ฆาท (Raja Ghat) เป็นท่าที่ติดกับสะพานมาลาวิยะ
เดิมชื่อ ลอร์ด ดัฟฟริน ฆาท ซึ่ง เป็นขุนนางอังกฤษทำ การสร้างสะพาน
แห่งนี้ เส้นทางจะไปมงคลสาลาย เป็นชุมชนใหญ่ มีสถานีรถไฟด้วย
๘๔. อดิ เกศวร ฆาท (Adi Keshava Ghat) เป็นท่าที่บรรจบกัน
ของแม่น้ำ วรุณกับแม่น้ำ คงคา ใกล้เคียงมีวัดอธิเกศวร ในคัมภีร์ปุราณะ
เป็นท่าที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด ว่ากันว่าพระวิษณุเหยียบโลกที่ท่านี้ ตำ นานกล่าว
ไว้ร่างของพระวิษณุเปรียบกับท่าน้ำ คงคาคือ ท่าอัสสี เปรียบดังศีรษะ ท่า
ดัสอัศวเมธ คือส่วนอก ท่านมณิกรรณิการ์ คือส่วนสะดือ ท่าปัญจคงคา
เปรียบดังส่วนต้นขา และท่าอธิเกศวร คือส่วนเท้า
|
|